วิธีรักษารอยสัก

วิธีรักษา รอยสัก ให้คมชัดและมีสีสวยเหมือนเพิ่งสักมาใหม่อยู่เสมอแม้จะต้องโดนแสงแดด ก็คือ ทาครีมกันแดดที่รอยสัก เพราะแสงแดดสามารถทำให้สีของหมึกสักซีดจางลงได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้ที่มี รอยสัก แต่จำเป็นต้องโดนแสงแดดเป็นเวลานาน อาจเจอปัญหารอยสักไหม้เพราะแสงแดดได้ด้วย การทาครีมกันแดดที่รอยสักจึงเป็นเรื่องสำคัญที่ผู้มีรอยสักทุกคนไม่ควรละเลยเป็นอย่างยิ่ง และมีข้อมูลเรื่องนี้มาฝากคุณแล้ว

เครดิตฟรี

การ ทาครีมกันแดดที่รอยสัก สำคัญอย่างไร
อย่างที่ทราบกันดีว่า ดวงอาทิตย์ปล่อยรังสีอัลตราไวโอเลต หรือรังสียูวี (UV Radiation) 2 ชนิด คือ UVA และ UVB ซึ่งรังสีเหล่านี้สามารถทำลายผิวหนังและ รอยสัก ของคุณได้ แต่การทาครีมกันแดดเป็นประจำทุกวัน โดยเฉพาะเวลาต้องเผชิญแสงแดด จะช่วยป้องกันรังสี UVA และ UVB ไม่ให้ทำลายผิวและส่งผลเสียต่อรอยสักของคุณได้

รังสี UVA
รังสี UVA มีแนวโน้มที่จะทะลุผ่านผิวหนังได้ลึกกว่ารังสี UVB จึงสร้างความเสียหายที่ยาวนานกว่า รังสี UVA อาจทำให้ผิวแก่กว่าวัย นำไปสู่การเกิดริ้วรอยและความหย่อนคล้อยบริเวณ รอยสัก นอกจากนี้ รังสี UVA ยังสามารถทำให้หมึกสักหลายประเภทจางลงได้ ผู้เชี่ยวชาญด้านการสักให้ข้อมูลว่า การสักหมึกสีอ่อนจะจางเร็วกว่าหมึกสีเข้ม หมึกสีขาวและหมึกสีพาสเทลจะจางเร็วที่สุด หรือแม้แต่หมึกสักสีดำ หากไม่ได้รับการดูแลรักษาอย่างถูกวิธี ก็สามารถจางหายไปได้เมื่อเวลาผ่านไป

รังสี UVB
รังสี UVB เป็นตัวการสำคัญที่สร้างความเสียหายให้กับผิวหนังชั้นบนสุด เพราะสามารถทำให้ผิวไหม้ได้ และหากผิวบริเวณที่ถูกแดดเผาเป็นผิวบริเวณที่ รอยสัก ก็สามารถทำให้รอยสักของคุณเสียหายได้ โดยเฉพาะหากเป็นรอยสักใหม่

สล็อต

รอยสักใหม่เป็นแผลเปิดที่ไม่ควรโดนแสงแดดโดยตรงจนกว่าจะหายดี เพราะหากรอยสักใหม่ถูกแดดเผาอาจต้องใช้เวลารักษานานขึ้น อีกทั้งยังอาจเกิดอาการคันและพุพองได้อีกด้วย หรือต่อให้เป็น รอยสัก เก่า บนร่างกายที่สักมานานแล้ว หากถูกแดดเผาก็อาจทำให้เกิดความเสียหายได้อย่างยาวนานเช่นกัน เพราะการได้รับรังสี UVB อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน และการถูกแดดเผาอาจทำให้ รอยสัก เสียหายได้เมื่อเวลาผ่านไป

วิธีป้องกันรอยสักใหม่จากแสงแดด
แน่นอนว่า ถ้าคุณมีรอยสักใหม่จะไม่สามารถทาครีมกันแดดได้จนกว่า รอยสัก จะหายสนิท ดังนั้น คุณควรคลุมรอยสักด้วยเสื้อผ้าหลวม ๆ แทน เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้รอยสักใหม่โดนแดดโดยตรง จำเอาไว้ว่า รอยสักใหม่เป็นแผลเปิด ครีมกันแดดที่มีสารเคมีและแร่ธาตุต่าง ๆ อาจทำให้ผิวหนังระคายเคืองได้ ส่วนถ้าคุณมีรอยสักที่หายแล้ว ก็ควรต้องทาครีมกันแดดอย่างปลอดภัยเช่นกัน

ควร ทาครีมกันแดดที่รอยสัก บ่อยแค่ไหน
หากคุณวางแผนที่จะออกไปข้างนอก และจำเป็นเผชิญกับแสงแดด ควรทาครีมกันแดด 15 นาทีก่อนที่จะออกไปข้างนอก จากนั้นทาซ้ำอย่างน้อยทุก ๆ 2 ชั่วโมง และทาให้บ่อยขึ้นกว่าเดิมหากคุณต้องว่ายน้ำ หรือมีเหงื่อออกมาก

สล็อตออนไลน์

วิธีรักษารอยสักที่ถูกแดดเผา
หาก รอยสัก ของคุณโดนแสงแดดจนเกิดเป็นรอยไหม้ ให้ปฏิบัติตามขั้นตอนดังต่อไปนี้

ประคบเย็นบริเวณที่ไหม้
ใช้มอยเจอร์ไรเซอร์บำรุงผิวสำหรับผิวแพ้ง่ายทาให้ทั่วบริเวณที่ไหม้
ดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อให้ผิวชุ่มชื้น ไม่แห้งตึงจนทำให้รอยไหม้แดดยิ่งรุนแรงขึ้น
หากคุณมีไข้ หรือสังเกตพบอาการบวมบริเวณรอยสัก หรือรู้สึกร้อน ๆ หนาว ๆ ให้รีบไปพบคุณหมอทันที เพราะนี่อาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อ
เมื่อรอยสักของคุณหายจากการถูกแดดเผาแล้ว คุณสามารถระบุได้ว่าต้องการเก็บงานจากช่างสักของคุณหรือไม่

วิธีการรักษา รอยสักติดเชื้อ
รอยกระแทกและผื่นเล็ก ๆ น้อย ๆ สามารถจัดการได้ที่บ้าน ด้วยการทาครีมต้านเชื้อแบคทีเรีย การทำความสะอาดที่เหมาะสม และการพักผ่อน หากคุณกำลังประสบกับการติดเชื้อ การรักษาจะขึ้นอยู่กับสาเหตุของการติดเชื่้อ คุณหมออาจจะเก็บตัวอย่างเนื้อเยื่อ หรือชิ้นเนื้อ เพื่อดูว่าแบคทีเรียหรือไวรัสใดเป็นสาเหตุของการทำให้เกิดการติดเชื้อ

jumboslot

ในกรณีส่วนใหญ่คุณหมอจะสั่งจ่ายยาปฏิชีวนะ เพื่อช่วยหยุดการติดเชื้อ ในกรณีที่รอยสักมีการติดเชื้อรุนแรง การรักษาด้วยยาปฏิชีวนะอาจจะใช้เวลาหลายสัปดาห์ หรือหลายเดือน หากการติดเชื้อเกิดจากแบคทีเรีย MRSA ยาปฏิชีวนะอาจไม่สามารถรักษาได้ หากแบคทีเรีย MRSA ทำให้เกิดฝี คุณหมอจะทำการระบายออกแทนการใช้ยา

ในบางกรณี การติดเชื้ออาจจำเป็นต้องผ่าตัด เพื่อซ่อมแซมเนื้อของคุณ หากเนื้อเยื่อของคุณตายเนื่องจากการติดเชื้อ อาจจำเป็นต้องผ่าตัด เพื่อเอาเนื้อเยื่อที่ติดเชื้อออกทั้งหมด หากรอยสักเกิดอาการคันและเจ็บปวดขึ้นอย่างต่อเนื่อง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของการติดเชื้อแบคทีเรีย Atypical Mycobacteria ดังนั้น จึงต้องได้รับการรักษาด้วยยาปฏิชีวนะในระยะยาว

เมื่อไหร่ที่ควรไปพบคุณหมอ
หากคุณเริ่มรู้สึกว่ามีไข้ มีอาการวูบผิดปกติ หรือมีการตกสะเก็ดบริเวณ รอยสัก คุณจำเป็นจะต้องไปพบคุณหมอโดยทันที เพราะนี่เป็นสัญญาณทั่วไปของการติดเชื้อ นอกจากนี้ คุณควรไปพบคุณหมอ หากบริเวณรอยสักมีผื่นหรือบวมนานกว่า 1 สัปดาห์ ถ้า รอยสัก ที่ติดเชื้อไม่ได้รับการรักษาอย่างรวดเร็ว หรือไม่ได้รับการรักษาที่ถูกต้อง แบคทีเรียอาจจะดื้อต่อยาปฏิชีวนะ จนอาจทำให้เกิดฝีได้ การกำจัดอาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษในคลินิกหรือโรงพยาบาล

slot

นอกจากนี้ คุณควรไปพบคุณหมอ หากคุณรู้สึกไม่สบายคันบริเวณรอยสัก หรือบริเวณนั้นมีหนองเกิดขึ้น ซึ่งนั่นอาจเป็นอาการแพ้หมึกสัก อาการแพ้อาจนำไปสู่ภาวะช็อคจากการแพ้ (Anaphylactic Shock) สิ่งนี้จะทำให้คอของคุณปิดและความดันโลหิตต่ำลงจนอันตราย ถ้าเกิดอาการแพ้เช่นนี้ควรไปที่ห้องฉุกเฉินทันที

ปฏิกิริยาแพ้
หากผิวของคุณไวต่อน้ำหอมเครื่องสำอาง หรือโลชั่นต่าง ๆ คุณอาจจะต้องคิดให้ดีก่อนที่จะทำ การสัก เพราะถือเป็นเรื่องปกติอย่างมากที่บุคคลทั่วไปอาจมีปฏิกิริยาแพ้ต่อสีที่ใช้ในการสักได้ เนื่องจากหมึกสักนั้นเต็มไปด้วยสารเคมีต่าง ๆ ซึ่งอาจทำให้ผิวเกิดการระคายเคืองได้ หากคุณเป็นคนที่มีผิวแพ้ง่าย หรือมีการอาการแพ้บ่อย ๆ แต่อยากมีรอยสัก แนะนำว่าควรปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านภูมิแพ้ก่อนเข้ารับ การสัก

โดยปกติแล้ว สีที่จะส่งผลให้เกิดอาการแพ้ ได้แก่ สีแดง สีเขียว สีเหลือง และสีน้ำเงิน ซึ่งปฏิกิริยาแพ้ที่เกิดขึ้นจะส่งผลทำให้เป็นผื่นคันบริเวณรอยสัก ซึ่งอาการนี้สามารถเกิดขึ้นได้แม้จะสักไปแล้วหลายปีก็ตาม

โรคตับอักเสบ
เมื่อพูดถึงรอยสัก ก็มักจะมีความกังวลถึงเรื่องของไวรัสตับอักเสบตามมา เนื่องจากไวรัสตับอักเสบนั้นสามารถส่งผ่านจากบุคคลหนึ่งไปยังอีกบุคคลหนึ่งด้วยการใช้เข็มร่วมกันได้ นี่จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่คุณควรจะต้องตรวจสอบสถานที่สักให้ดีเสียก่อน นอกจากนั้นแล้ว คุณต้องตรวจสอบด้วยว่าช่างสักสวมถุงมือทุกครั้ง และใช้เข็มใหม่ที่สะอาดใน การสัก

ทำให้การตรวจ MRI ยุ่งยากมากขึ้น
หากคุณมีอาการป่วยที่ต้องใช้เครื่อง MRI เป็นประจำ คุณอาจจะต้องหยุดสักชั่วคราว เนื่องจากรอยสักอาจจะไปรบกวนการทำงานของ MRI ได้ เพราะแม่เหล็กอาจทำปฏิกิริยาบริเวณรอบ ๆ รอยสัก รวมถึงรอยแดง รอยบวม หรือบางครั้งก็มีปฏิกิริยากับรอยไหม้ด้วย นอกจากนี้ เครื่อง MRI จะผลิตภาพอวัยวะและโครงสร้างของร่างกายในระดับสีเทา เมื่อหมึกสักผสมลงไปในภาพ ก็อาจจะทำให้ผลลัพธ์ที่ได้ผิดเพี้ยน หรือการอ่านค่ามีความยากขึ้น ส่วนหมึกสีแดงนั้นเป็นที่รู้กันดีว่าสร้างปัญหาเกี่ยวกับ MRI เนื่องจากมีธาตุเหล็ก ซึ่งมีความเป็นแม่เหล็กสูง

รอยสักจะรบกวนการสแกนของเครื่อง MRI หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับขนาดของรอยสักและส่วนผสมที่ใช้ในหมึกด้วย ดังนั้นหากคุณมีรอยสักและต้องการจะทำ MRI ควรตรวจสอบกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเสียก่อน เพื่อให้แพทย์แจ้งถึงความเสี่ยงหากต้องมีการทดสอบเกิดขึ้น