แนะนำสูตรสครับขัดผิว
ถึงแม้ว่าคุณจะหมั่นบำรุงผิวพรรณด้วยการมาส์กผิว ทาโลชั่น หรือครีมกันแดด อย่างเป็นประจำก็ตาม แต่บางครั้งก็อาจไม่เพียงพอที่จะทำให้ผิวคุณดูกระจ่างใสขึ้น เนื่องจากผิวยังไม่เคยได้รับการ ขัดผิว เพื่อขจัดเซลล์ผิวหนังเก่าออกไป วันนี้จึงขอนำสูตร สครับขัดผิว ด้วยวัตถุดิบที่หาได้ง่าย ๆ ใกล้ตัว มาฝากทุกคนให้ลองนำไปทำตามพร้อม ๆ กันค่ะ
ทำไมคนเราจำเป็นต้อง ขัดผิว กันนะ
ตามสถาบันผิวหนังของอเมริกา (American Academy of Dermatology) กล่าวว่าการ ขัดผิว อาจสามารถช่วยให้ผิวพรรณของคุณดูสว่างกระจ่างใสขึ้น เนื่องจากเป็นการกำจัดเซลล์ผิวชั้นบนสุดที่ตายแล้วออก พร้อมกระตุ้นกระบวนการสร้างคอลลาเจน ที่ช่วยส่งเสริมให้ผิวของคุณดูเต่งตึง ป้องกันรูขุมขนอุดตัน ทำให้ผิวดูมีชีวิตชีวา แต่ถึงอย่างไร หลังเสร็จสิ้นการขัดผิว คุณควรบำรุงผิวด้วยโลชั่น หรือผลิตภัณฑ์บำรุงผิวสูตรอ่อนโยนเพิ่มเติม เพื่อลดการระคายเคืองจากการขัดผิว และไม่ทำให้ผิวดูแห้งกร้าน
วิธีทำ สครับขัดผิว ด้วยตัวเอง
เมื่อคุณไม่มีเวลาที่จะออกไปตามหาซื้อสครับมา ขัดผิว คุณอาจมองหาวัตถุดิบที่อยู่ใกล้ตัวได้ เพื่อนำมาทำสครับตามวิธีต่าง ๆ ดังนี้
- สครับน้ำตาลทรายแดง
วิธีทำ คือ นำน้ำตาลทรายแดง ½ ถ้วย ผสมกับน้ำมันจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะพร้าว น้ำมันมะกอก ½ ถ้วย จากนั้นคนให้เข้ากัน และนำมา ขัดผิว ได้ในทันที หรืออาจเพิ่มเติมกลิ่นด้วยน้ำมันหอมระเหย เพื่อสร้างกลิ่นเพิ่มความผ่อนคลายในระหว่างการขัดได้ - สครับจากน้ำตาลผสมน้ำผึ้ง
วิธีทำ นำน้ำตาลทรายแดง ½ ถ้วย ผสมเข้ากับน้ำผึ้ง 2 ช้อนโต๊ะ และน้ำมันมะพร้าว ¼ ถ้วย เช็กเนื้อสครับให้มีความข้นหนืดในระดับพอเหมาะ ไม่เหลว ไม่แข็งจนเกินไป จากนั้นจึงนำมาขัดผิวเบา ๆ ได้
- สครับกากกาแฟ
วิธีทำ นำกากกาแฟ ½ ถ้วย น้ำมันมะพร้าว 1 ช้อนโต๊ะ พร้อมน้ำต้มสุก 2 ช้อนโต๊ะ มาผสมรวม โดยที่คุณสามารถเพิ่มปริมาณวัตถุดิบต่าง ๆ ได้อีกเพิ่มเติมหากเนื้อสครับยังไม่พอดีหรือเหลวจนเกินไป ก่อนจะนำมา ขัดผิว - สครับเกลือทะเล
วิธีทำ นำเกลือ ½ ถ้วยมาบดให้พอละเอียด แล้วนำมาผสมให้เข้ากับน้ำมันจากธรรมชาติ ส่วนขั้นตอนในการลงมือ ขัดผิว นั้น อาจต้องระมัดระวังอย่าขัดแรงจนเกินไป เพราะอาจทำให้เกลือบาดผิวจนเกิดเป็นรอยแผลแตก และรู้สึกเจ็บแสบได้
นอกจากวิธีการทำสครับ ขัดผิว ข้างต้นแล้ว คุณอาจสามารถหาซื้อผลิตภัณฑ์สำหรับสครับขัดผิวมาใช้แทนได้ แต่ควรพิจารณาเลือกจากเครื่องหมายรับรองความปลอดภัย พร้อมอ่านส่วนประกอบที่ติดไว้บนฉลากก่อนเสมอ เพราะในบางครั้งอาจมีสารเคมีอื่น ๆ ปะปนส่งผลให้เกิดอาการแพ้ขึ้น
เราควร ขัดผิว บ่อยแค่ไหน
โดยทั่วไปคุณควร ขัดผิว เพียง 2-3 ครั้ง ต่อสัปดาห์ หรือ สัปดาห์ละ 1 ครั้ง เท่านั้น เพราะหากคุณมีการขัดผิวทุกวัน อาจส่งผลให้เกิดการระคายเคือง และชั้นผิวหนังบอบบางลงได้ อีกทั้งในกรณีที่คุณมีอาการแพ้อย่างไม่ทราบว่าเกิดมาจากสาเหตุใดในระหว่าง หรือหลังการขัดผิว โปรดเข้าขอรับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญทางด้านผิวหนังโดยตรงในทันทีก่อนเกิดปฏิกิริยาการแพ้รุนแรงหากปล่อยทิ้งไว้เป็นระยะเวลานาน
มะเขือเทศ ลูกกลมๆ สีแดงสดใส หนึ่งในพืชที่มีประโยชน์ต่อผิวพรรณอยู่มากมาย หลายๆ คนก็อาจจะทราบกันเป็นอยู่แล้วว่ามะเขือเทศนั้นดีต่อผิว แต่วันนี้ Hello คุณหมอ ก็มีข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับมะเขือเทศ ตัวช่วยบำรุงผิวสวยมาฝากกันว่า สารอาหารตัวใดบ้างที่มีส่วนช่วยในการบำรุงผิว
สารอาหารใน มะเขือเทศ ที่ช่วยให้ผิวสวย
มะเขือเทศถือเป็นหนึ่งในอาหารที่ดีต่อสุขภาพ มะเขือเทศหนึ่งผลนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซีและสารต้านอนุมูลอิสระมากมาย ทั้ง เบตาแคโรทีน (Beta-carotene) ลูทีน (Lutein) ไลโคปีน (Lycopene) แมกนีเซียม (Magnesium) โพแทสเซียม (Potassium) วิตามินเอ (Vitamin A) นอกจากนี้ยังมีวิตามิน บี 1 วิตามิน บี 3 วิตามิน บี 5 วิตามิน บี 6 และ วิตามิน บี 9 อีกด้วย ซึ่งจากงานวิจัยพบว่าการบริโภคมะเขือเทศนั้น ส่งผลดีต่อผิวพรรณมากกว่าการใช้มะเขือเทศมาทาที่ผิวหนัง
ประโยชน์ของ มะเขือเทศ สำหรับผิวสวย
มะเขือเทศมีคุณสมบัติในการบำรุงผิว เพื่อช่วยให้ผิวสวยได้ ดังนี้
1) ช่วยผลัดเซลล์ผิว
การผลัดเซลล์ผิว เป็นวิธีการกำจัดเซลล์ผิวหนังที่ตายแล้วออกไป เพื่อให้เกิดการสร้างเซลล์ใหม่ที่ดีกว่าขึ้นมา ซึ่งจากการวิจัยพบว่าในมะเขือเทศมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
2) ช่วยบำรุงเซลล์ผิวที่มีความเสียหาย
จากการวิจัยในปี 2020 พบว่าสารต้านอนุมูลอิสระเช่น วิตามินซีและไลโคปีน นั้นมีส่วนช่วยในการต่อต้านเซลล์ผิวหนังที่มีความเสียหาย แต่งานวิจัยนั้นไม่ครอบคลุมถึงการใช้มะเขือเทศในการทาหรือพอก
3) ช่วยเพิ่มความชุ่มชื่นให้กับผิวหนัง
จากการศึกษาพบว่า ระดับโพแทสเซียมในร่างกายที่มีปริมาณต่ำนั้น ส่งผลทำให้ผิวหนังเกิดความแห้งกร้านและอาจทำให้เกิดความเสี่ยงในการเป็นโรคผิวหนังบางชนิดได้ ซึ่งมะเขือเทศถือเป็นแหล่งของโพแทสเซียมที่ดี มะเขือเทศหนึ่งผลอุดมไปด้วยโพแทสเซียม 0.9 กรัม การที่ร่างกายได้รับโพแทสเซียมที่เพียงพอจะช่วยให้ผิวหนังมีความชุ่มชื่น ไม่แห้ง
4) ช่วยลดความเสี่ยงต่อการที่ผิวหนังถูกแดดเผาไหม้
จากการศึกษาในปี 2006 พบว่าการบริโภคพืชที่อุดมไปด้วยไลโคปีน อย่างมะเขือเทศ มีส่วนช่วยทำให้ร่างกายมีความทนทานต่อรังสียูวี ซึ่งเป็นรังสีที่มีความอันตรายต่อผิวหนัง ซึ่งจากการศึกษาผู้ที่บริโภคมะเขือเทศนาน 12 สัปดาห์ พบว่าผู้ที่มีการบริโภคมะเขือเทศร่างกายสามารถทนทานต่อรังสียูวีมากกว่าบุคคลทั่วไป
ข้อควรระวังสำหรับการใช้ มะเขือเทศบำรุงผิว
มะเขือเทศถือเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ดีต่อสภาพผิวมากมาย แต่สำหรับบางคนมะเขือเทศอาจไม่ได้ให้ประโยชน์เสมอไป บางคนอาจจะมีอาการแพ้สารอาหารในมะเขือเทศจนเกิดอาการที่ผิวหนัง ซึ่งในแต่ละคนอาจจะเกิดปฏิกิริยาแพ้แตกต่างกันออกไป ดังนี้
เกิดรอยแดงที่ผิวหนัง
มีผื่นขึ้นตามร่างกาย
เกิดอาการคันตามร่างกาย
ดังนั้น เมื่อรับประทานมะเขือเทศ ควรสังเกตอาหารของตัวเอง ว่ามีความผิดปกติเหล่านี้เกิดขึ้นตามร่างกายหรือไม่ แต่สำหรับบางคนที่ใช้มะเขือเทศภายนอก หรือใช้ครีมที่มีมะเขือเทศเป็นส่วนผสมควรลองทาครีมนั้นๆ ที่แขนเป็นบริเวณเล็กๆ เพื่อดูว่ามีรอยแดง อาการคัน หรือบวมขึ้นในบริเวณที่ทาครีมหรือไม่